ประกาศนโยบายความเป็นส่วนตัว (privacy notice)
บริษัท กรุงเทพ อาร์ ไอ เอ แล็บ จำกัด และบริษัทในเครือ รวมถึงบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตามคำสั่งหรือในนามของบริษัท กรุงเทพ อาร์ ไอ เอ แล็บ จำกัด ซึ่งต่อไปนี้จะ เรียกรวมว่า“บริษัทฯ” มุ่งมั่นที่จะปกป้องความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้บริการ คู่ค้า พันธมิตรทางธุรกิจ (เรียกรวมกันว่า “ท่าน” หรือ “เจ้าของข้อมูล”) ไม่ว่าจะเป็นการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผย (เรียกรวมกันว่า “การประมวลผล ข้อมูล”) เพื่อให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 บริษัทฯจึงออกประกาศฉบับนี้ขึ้น เพื่อแจ้งข้อมูลให้แก่ผู้ใช้บริการอันเกี่ยวกับสิทธิและหน้าที่ ตลอดจนเงื่อนไขต่าง ๆ ในการเก็บ รวมรวบ ใช้ และ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
ข้อมูลส่วนบุคคล
“ข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ ไม่ว่าทางตรงหรือ ทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ
“ข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหว” หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคลตามที่ถูกบัญญัติไว้ในมาตรา ๒๖ แห่งพระราชบัญญัติ คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ซึ่งได้แก่ ข้อมูลเชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็นทางการเมือง ความเชื่อในลัทธิ ศาสนาหรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูล สหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ หรือข้อมูลอื่นใดซึ่งกระทบต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลใน ทำนองเดียวกันตามที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลประกาศกำหนด
ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯเก็บรวบรวม
ในการเก็บรวบรวม และเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลบริษัทฯ จะใช้วิธีการที่ชอบด้วยกฎหมายและจำกัด เพียงเท่าที่จำเป็นตามวัตถุประสงค์การดำเนินงานของบริษัทฯ อันประกอบด้วย
1. ข้อมูลส่วนตัว เช่น ชื่อ-นามสกุล, Hospital Number, Lab Number, อายุ, วันเกิด, เลขประจำตัวประชาชน, เลขที่หนังสือเดินทาง, ลายมือชื่อ, สำเนาบัตรประชาชน, สำเนาหนังสือเดินทาง, สถานภาพสมรส, ตำแหน่ง, อาชีพ, การศึกษา, เลขทะเบียนผู้ถือหุ้น, ข้อมูลบุคคลที่สาม หรือเอกสารราชการอื่น ๆ ที่สามารถระบุตัวตน ได้เป็นต้น
2. ข้อมูลสำหรับติดต่อ เช่น ที่อยู่, หมายเลขโทรศัพท์, อีเมล, นามบัตร, ID LINE, บัญชี Social Media เป็นต้น
3. ข้อมูลรูปภาพ เช่น ข้อมูลภาพนิ่ง, ภาพเคลื่อนไหวของตัวท่านหรือทรัพย์สินของท่านซึ่งได้รวบรวม จากกล้องโทรทัศน์วงจรปิด, กล้องถ่ายภาพเมื่อมีการเข้าในพื้นที่บริษัทฯ เป็นต้น
4. ข้อมูลทางการเงิน เช่น ข้อมูลบัญชีธนาคาร, สำเนาสมุดบัญชี, เลขบัตรเครดิต, ประวัติการซื้อ – ขาย, หมายเลขบัญชี เป็นต้น
5. ข้อมูลที่ได้จากระบบอัตโนมัติหรืออุปกรณ์ต่างๆ เช่น หมายเลข IP Address, Cookie, พฤติกรรมการใช้บริการ, ประวัติการใช้บริการ, เสียง, ภาพถ่าย, ภายเคลื่อนไหว, ชื่อบัญชี Social Media, Chat, Geolocation เป็นต้น
6. ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีข้อมูลอ่อนไหว เช่น ข้อมูลชีวภาพ, ข้อมูลพันธุกรรม, เชื้อชาติ, ศาสนา, ข้อมูลสุขภาพ หรือข้อมูลอื่นใดในทำนองเดียวที่กฎหมายกำหนด ซึ่งบริษัทฯ ดำเนินการด้วยความระมัดระวังเป็นพิเศษ โดย บริษัทฯ จะเก็บรวบรวมใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวได้ต่อเมื่อบริษัทฯ ได้รับความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่าน หรือในกรณีที่บริษัทฯ มีความจำเป็นตามที่กฎหมายอนุญาต
ข้อมูลอื่นใดที่ถือว่าเป็นข้อมูลส่วนบุคคลตามที่ระบุในพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
โดยบริษัทฯจะดำเนินการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลเมื่อได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ก่อน ยกเว้นในกรณีดังต่อไปนี้
1. เพื่อปฏิบัติตามสัญญา กรณีการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อความจำเป็นต่อการ ให้บริการหรือปฏิบัติตามสัญญาระหว่างเจ้าของข้อมูลและบริษัทฯ
2. เพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพ
3. เพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย
4. เพื่อผลประโยชน์อันชอบโดยกฎหมายของบริษัทฯ กรณีมีความจำเป็นเพื่อประโยชน์อันชอบธรรมในการ ดำเนินงานของบริษัทฯ โดยบริษัทฯ จะพิจารณาถึงสิทธิของเจ้าของข้อมูลเป็นสำคัญ เช่น เพื่อป้องกันการ ฉ้อโกง การรักษาความปลอดภัยในระบบเครือข่าย การปกป้องสิทธิเสรีภาพ และประโยชน์ของเจ้าของข้อมูล เป็นต้น
5. เพื่อการศึกษาวิจัยหรือสถิติ กรณีที่มีการจัดทำเอกสารประวัติศาสตร์หรือจดหมายเหตุเพื ่อประโยชน์ สาธารณะหรือที่เกี่ยวกับการศึกษาวิจัยหรือสถิติซึ่งได้จัดให้มีมาตรการปกป้องที่เหมาะสมเพื่อคุ้มครองสิทธิ และเสรีภาพของเจ้าของข้อมูล
6. เพื่อปฏิบัติภารกิจของรัฐ กรณีมีความจำเป็นต่อการปฏิบัติตามภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือการปฏิบัติหน้าที่ตามอำนาจรัฐที่ บริษัทฯ ได้รับมอบหมาย
โดยบริษัทฯ อาจจำเป็นต้องเก็บรวบรวมข้อมูลที่มีความอ่อนไหว เช่น ศาสนา เชื้อชาติ ข้อมูลชีวภาพ ข้อมูลความพิการ ข้อมูลสุขภาพ ประวัติอาชญากรรม โดยบริษัทฯ จะทำการขอคำยินยอมจากเจ้าของข้อมูล ทุกครั้งในการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผย เว้นแต่
1. เพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคลซึ่งเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลไม่ สามารถให้ความยินยอมได้
2. เป็นการดำเนินกิจกรรมโดยชอบด้วยกฎหมายที่มีการคุ้มครองที่เหมาะสมของมูลนิธิ สมาคม หรือองค์กร ที่ไม่แสวงหากำไรที่มีวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการเมือง ศาสนา ปรัชญา หรือสหภาพแรงงาน ให้แก่สมาชิกผู้ ซึ่งเคยเป็นสมาชิก หรือผู้ซึ่งมีการติดต่ออย่างสม่ำเสมอกับมูลนิธิ สมาคม หรือองค์กร ที่ไม่แสวงหากำไร ตามวัตถุประสงค์ดังกล่าวโดยไม่ได้เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลนั้นออกไปภายนอกมูลนิธิ สมาคม หรือองค์กร ที่ไม่แสวงหากำไรนั้น
3. เป็นข้อมูลที่เปิดเผยต่อสาธารณะด้วยความยินยอมโดยชัดแจ้งของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
4. เป็นการจำเป็นเพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย
5. เป็นการจำเป็นในการปฏิบัติตามกฎหมายเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์เกี่ยวกับ
5.1 เวชศาสตร์ป้องกันหรืออาชีวเวชศาสตร์ การประเมินความสามารถในการทำงานของลูกจ้าง การ วินิจฉัยโรคทางการแพทย์ การให้บริการด้านสุขภาพหรือด้านสังคม การรักษาทางการแพทย์ การจัดการด้านสุขภาพ หรือระบบการให้บริการด้านสังคมสงเคราะห์
5.2 ประโยชน์ด้านการสาธารณะสุข เช่น การป้องกันด้านสุขภาพจากโรคติดต่ออันตรายหรือโรคระบาด
5.3 การคุ้มครองแรงงาน การประกันสังคม หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ สวัสดิการเกี่ยวกับการ รักษาพยาบาลของผู้มีสิทธิตามกฎหมาย การคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ หรือการคุ้มครองทางสังคม
5.4 การศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ประวัติศาสตร์ หรือสถิติ หรือประโยชน์สาธารณะอื่น
5.5 ประโยชน์สาธารณะที่สำคัญ
แหล่งที่มาของข้อมูล
1. ข้อมูลจากเจ้าของข้อมูลโดยตรง ที่ท่านได้ให้ไว้ในกิจกรรมต่าง ๆ เช่น ช่องทางเว็บไซต์ แอพพลิเคชั่น หรือ ช่องทางอื่นของบริษัทฯ, การเข้า – ออก ภายในบริษัทฯ, การซื้อสินค้าหรือใช้บริการจากทางบริษัทฯ, การจัดอบรม, การจัดซื้อจัดจ้าง, ทำธุรกรรมแบบออนไลน์และออฟไลน์ หรือการตอบโต้ทางจดหมาย อิเล็กทรอนิกส์ (e-mail) หรือการกรอก/ให้ข้อมูลประกอบการสมัครงาน หรือช่องทางการสื่อสารอื่นๆ ระหว่างบริษัทฯ และท่าน
2. ข้อมูลจากบุคคลที่สามที่มีความเกี่ยวข้อง เช่น ญาติ, คนในครอบครัว
3. ข้อมูลจากระบบอัตโนมัติ เช่น ภาพจากกล้องวงจรปิด
4. ข้อมูลจากแหล่งอื่น เช่น ข้อมูลสาธารณะ ข้อมูลจากหน่วยงานพันธมิตร หน่วยงานราชการ หรือบริษัทฯใน เครือ ตลอดจนข้อมูลส่วนบุคคลอื่น ๆ ที่ผู้ใช้บริการได้มอบไว้ให้
ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เยาว์ คนไร้ความสามารถและคนเสมือนไร้ความสามารถ
กรณีที่ บริษัทฯ ทราบว่าข้อมูลส่วนบุคคลที่จำเป็นต้องได้รับความยินยอมในการเก็บรวบรวม เป็นของ เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งเป็นผู้เยาว์ คนไร้ความสามารถหรือคนเสมือนไร้ความสามารถ บริษัทฯ จะไม่ทำการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลนั้นจนกว่าจะได้รับความยินยอมจากผู้ใช้อำนาจปกครองที่มีอำนาจกระทำ การแทนผู้เยาว์ หรือผู้อนุบาล หรือผู้พิทักษ์ตามแต่กรณี ทั้งนี้ เป็นไปตามเงื่อนไขที่กฎหมายกำหนด
กรณีที่ บริษัทฯ ไม่ทราบมาก่อนว่าเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเป็นผู้เยาว์ คนไร้ความสามารถหรือคนเสมือน ไร้ความสามารถ และมาพบในภายหลังว่า บริษัทฯ ได้เก็บรวบรวมข้อมูลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว
โดยยังมิได้รับความยินยอมจากผู้ใช้อำนาจปกครองที่มีอำนาจกระทำการแทนผู้เยาว์ หรือผู้อนุบาล หรือผู้ พิทักษ์ตามแต่กรณี ดังนี้ บริษัทฯ จะดำเนินการลบทำลายข้อมูลส่วนบุคคลนั้นโดยเร็วหาก บริษัทฯ ไม่มีเหตุอัน ชอบด้วยกฎหมายประการอื่นนอกเหนือจากความยินยอมในการเก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลดังกล่าว
วัตถุประสงค์ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทฯ อาจนำข้อมูลส่วนบุคคลไปใช้ตามวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้หรือตามวัตถุประสงค์อื่น ๆ ที่แจ้งขณะ เก็บรวบรวมข้อมูลหรือที่ท่านได้ให้ความยินยอมหลังจากบริษัทฯ ดำเนินการเก็บข้อมูลไปแล้ว
1. เพื่อการให้บริการ วิเคราะห์ทางการแพทย์ ด้วยเครื่องมือทางการแพทย์พร้อมด้วยบุคลากรผู้มีประสบการณ์ ในมาตรฐานระดับสากล พร้อมบริการการรายงานผลและให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพ
2. สร้างและจัดเก็บข้อมูลประวัติการรับบริการของท่าน
3. นัดหมาย แจ้งเตือน ประสานงานระหว่างท่านและแพทย์ หรือให้คำแนะนำเกี่ยวกับสุขภาพ
4. ประสานงานและส่งต ่อข้อมูลให้แก่คลินิกในเครือข่าย และคลินิกอื่น ๆ หรือห้องปฏิบัติการหน่วยงาน ภายนอก ในกรณีที่มีความจำเป็นในการให้บริการ
5. ดำเนินกิจกรรมใด ๆ ทางบัญชีและการเงิน เช่น การตรวจสอบบัญชี การแจ้งและเรียกเก็บหนี้ การใช้สิทธิ สวัสดิการต่าง ๆ ภาษี และหลักฐานการดำเนินธุรกรรมต่าง ๆ ที่กฎหมายกำหนด
6. เพื่อประโยชน์อันชอบด้วยกฎหมายของบริษัท เช่น การบันทึกเสียงการร้องเรียนผ่านระบบ Call Center, การบันทึกภาพผ่านกล้อง CCTV
7. ใช้ในการสอบสวนและปฏิบัติตามกฎหมาย ข้อบังคับ ระเบียบ หรือหน้าที่ตามกฎหมายของห้องปฏิบัติการ หรือที่เกี่ยวข้อง
8. ใช้ข้อมูลในการยืนยันตัวตนผู้เข้าใช้บริการ
9. ใช้ในการประเมินผลและปรับปรุงธุรกิจ เพื่อพัฒนาคุณภาพสินค้าและบริการ
10. ตอบสนองต่อคำขอของท่าน เช่น การรับเรื่องร้องเรียน
11. วัตถุประสงค์อื่น ๆ ที่ได้รับคำยินยอมชัดแจ้งจากท่าน
12. สำรวจความพึงพอใจของผู้ใช้บริการ วิจัยตลาด และวิเคราะห์ทางสถิติ เพื่อเป็นข้อมูลในการปรับปรุง ผลิตภัณฑ์และบริการ หรือสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ๆ
การส่งต่อและเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทฯจะไม่เปิดเผยและส่งต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังหน่วยงานภายนอก เว้นแต่ได้รับคำยินยอม ชัดแจ้งจากท่าน หรือเป็นไปตามกรณีดังต่อไปนี้
1. เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ตามที่ระบุในนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้บริษัทฯอาจจำเป็นต้องเปิดเผยหรือ แบ่งปันข้อมูลเฉพาะเท่าที่จำเป็นแก่คู่ค้า ผู้ให้บริการ หรือหน่วยงานภายนอก ดังต่อไปนี้
1.1 ธุรกิจคู่ค้า และธุรกิจพันธมิตร
1.2 ตัวแทน หรือคู่ค้าที่ให้บริการแก่บริษัทฯ หรือดำเนินการใดๆ ในฐานะตัวแทนของบริษัทฯ
1.3 หุ้นส่วนทางธุรกิจ
1.4 ธนาคาร และผู้ให้บริการชำระเงิน เช่น บริษัทฯบัตรเครดิต หรือเดบิต
ทั้งนี้ บริษัทฯ จะจัดทำข้อตกลงการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตามที่กฎหมายกำหนด
1. บริษัทฯอาจเปิดเผยหรือแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่บริษัทฯในเครือ โดยจะเป็นการประมวลผลข้อมูล ภายใต้วัตถุประสงค์ที่ระบุในนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้เท่านั้น
2. กฎหมายหรือกระบวนการทางกฎหมายบังคับให้เปิดเผยข้อมูล หรือเปิดเผยต่อเจ้าพนักงาน เจ้าหน้าที่รัฐ หรือหน่วยงานที่มีอำนาจเพื่อปฏิบัติตามคำสั่งหรือคำขอที่ชอบด้วยกฎหมาย
การส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังต่างประเทศ
ในบางกรณี บริษัทฯ อาจจำเป็นต้องส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศเพื่อดำเนินการตาม วัตถุประสงค์ในการให้บริการแก่ท่าน เช่น เพื่อการตรวจวิเคราะห์เฉพาะด้านโดยผู้ให้บริการต่างประเทศ (เช่น ประเทศเกาหลีใต้ ประเทศญี่ปุ่น เป็นต้น) เพื่อจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลไปยังระบบคลาวด์ (Cloud) ที่มีแพลตฟอร์ม หรือเครื่องแม่ข่าย (Server) อยู่ต่างประเทศ (เช่น ประเทศสิงคโปร์ หรือสหรัฐอเมริกา เป็นต้น) เพื่อความปลอดภัย ของการให้บริการด้วยระบบเทคโนโลยีสารสนเทศที่ ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับบริการของ บริษัทฯ ที่ท่านใช้งานหรือมีส่วน เกี่ยวข้องเป็นรายกิจกรรม
อย่างไรก็ตาม ในขณะที่จัดทำนโยบายฉบับนี้ คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลยังมิได้มีประกาศกำหนด รายการประเทศปลายทางที่มีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เพียงพอ ดังนั้น หาก บริษัทฯ มีความ จำเป็นต้องส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังประเทศปลายทาง บริษัทฯ จะดำเนินการเพื่อให้ข้อมูลส่วน บุคคลที่ส่งหรือโอนไปมีมาตรการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเพียงพอตามมาตรฐานสากล หรือดำเนินการตาม เงื่อนไขเพื่อให้สามารถส่งหรือโอนข้อมูลนั้นได้ตามกฎหมาย ได้แก่
1. เป็นการปฏิบัติตามกฎหมายที่กำหนดให้ บริษัทฯ ต้องส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปต่างประเทศ
2. ได้แจ้งให้ท่านทราบและได้รับความยินยอมจากท่านในกรณีที่ประเทศปลายทางมีมาตรฐานการคุ้มครอง ข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่เพียงพอ ทั้งนี้ ตามประกาศรายชื่อประเทศที่คณะกรรมการคุ้มครองส่วนบุคคล ประกาศกำหนด
3. เป็นการจำเป็นเพื่อปฏิบัติตามสัญญาที่ท่านเป็นคู่สัญญากับ บริษัทฯ หรือเป็นการทำตามคำขอของท่าน ก่อนการเข้าทำสัญญานั้น
4. เป็นการกระทำตามสัญญาของ บริษัทฯ กับบุคคลหรือนิติบุคคลอื่น เพื่อประโยชน์ของท่าน
5. เพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของท่านหรือของบุคคลอื่น
6. เมื่อท่านไม่สามารถให้ความยินยอมในขณะนั้นได้
7. เป็นการจำเป็นเพื่อดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะที่สำคัญ
การปกป้องข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทฯได้จัดทำและ/หรือเลือกใช้ระบบการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลให้มีกลไกและเทคนิคที่เหมาะสม พร้อมทั้งมีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งมีการปฏิบัติตามมาตรฐานความปลอดภัย ISO 27001, ISO 15189 และมีการ จำกัดการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากพนักงาน ลูกจ้าง และตัวแทนของบริษัทฯ เพื่อป้องกันไม่ให้ ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านถูกนำไปใช้ เปิดเผย ทำลาย หรือเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต
ระยะเวลาในการจัดเก็บข้อมูล
บริษัทฯจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ตลอดระยะเวลาตราบเท่าที่จำเป็นต่อการประมวลผล ตามวัตถุประสงค์ในนโยบายฉบับนี้เท่านั้น เว้นแต่มีความจำเป็นต้องเก็บข้อมูลส่วนบุคคลไว้ด้วยเหตุอื่นใด เช่น เพื่อปฏิบัติตามกฎหมายหรือการตรวจสอบกรณีการเกิดข้อพิพาท บริษัทฯ อาจมีความจำเป็นต้องเก็บ ข้อมูลไว้เป็นระยะเวลาเกินกว่าที่ระบุ
การเปลี่ยนแปลงนโยบายความเป็นส่วนตัว
บริษัทฯอาจแก้ไขเพิ่มเติมนโยบายความเป็นส่วนตัวโดยจะประกาศบนเว็บไซต์ https://www.brianet.com พร้อมระบุวันที่แก้ไขเพิ่มเติมครั้งล่าสุด บริษัทฯแนะนำให้ท่านตรวจสอบนโยบายนี้เป็นประจำ โดยการที่ท่าน ใช้ผลิตภัณฑ์หรือบริการทางเว็บไซต์ของบริษัทฯ ต่อไปหลังจากที่มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายความเป็นส่วนตัว จะถือว่าท่านยอมรับนโยบายที่เปลี่ยนแปลงนั้นแล้ว
สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
ท่านสามารถขอใช้สิทธิต่าง ๆ ตามที่กฎหมายกำหนด และตามที่ระบุไว้ในประกาศฉบับนี้ได้ดังต่อไปนี้
1. สิทธิในการเพิกถอนความยินยอม ท่านมีสิทธิจะถอนความยินยอมเมื่อใดก็ได้ เว้นแต่ มีข้อจำกัดสิทธิโดยกฎหมายหรือสัญญาที่ให้ประโยชน์แก่ท่าน ทั้งนี้ การถอนความยินยอมจะไม่ส่งผลกระทบต่อการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมแก่บริษัทฯ ก่อนหน้าแล้วโดยชอบด้วยกฎหมาย
2. สิทธิในการขอเข้าถึงและขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคล เว้นแต่ กรณีที่บริษัทฯ มีสิทธิปฏิเสธคำขอของท่าน ตามกฎหมายหรือคำสั่งศาล หรือกรณีที่คำขอของท่านจะมีผลกระทบที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อสิทธิ และเสรีภาพของบุคคลอื่น
3. สิทธิในการขอแก้ไขข้อมูลบุคคลให้เป็นปัจจุบัน ถูกต้อง สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด ทั้งนี้ การ แก้ไขดังกล่าว บริษัทฯ สามารถดำเนินการได้แม้ท่านจะไม่ร้องขอ
4. สิทธิในการขอลบหรือทำลายหรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้ ในกรณี ดังต่อไปนี้
4.1 เมื่อข้อมูลส่วนบุคคลหมดความจำเป็นในเก็บรักษาไว้ตามวัตถุประสงค์ในการเก็บ รวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
4.2 เมื่อท่านถอนความยินยอมในการเก็บ รวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลและบริษัทฯ ไม่มี อำนาจตามกฎหมายที่จะเก็บ รวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลต่อไป
4.3 เมื่อท่านคัดค้านการเก็บ รวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล และบริษัทฯ ไม่มีอำนาจตาม กฎหมายที่จะปฏิเสธได้เว้นแต่ กรณีบริษัทฯ มีเหตุโดยชอบด้วยกฎหมายในการปฏิเสธคำขอของ ท่าน
5. สิทธิในการขอรับหรือขอให้ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ในกรณีที่บริษัทฯ ได้ทำให้ข้อมูลส่วน บุคคลนั้นอยู่ในรูปแบบที่สามารถอ่านหรือใช้งานโดยทั่วไปได้ด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดย อัตโนมัติและสามารถใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ เว้นแต่ โดยสภาพทางเทคนิค ไม่สามารถทำได้ หรือเป็นการปฏิบัติหน้าที่เพื่อประโยชน์สาธารณะหรือเป็นการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย หรือการใช้สิทธิละเมิดต่อสิทธิหรือเสรีภาพของบุคคลอื่น
6. สิทธิในการขอคัดค้าน ท่านมีสิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเมื่อใดก็ได้ใน กรณีดังต่อไปนี้
6.1 กรณีที่เป็นข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งบริษัทฯดำเนินการภายใต้ฐานประโยชน์ชอบด้วยกฎหมาย เว้นแต่ บริษัทฯได้แสดงให้เห็นถึงเหตุอันชอบด้วยกฎหมายที่สำคัญยิ่งกว่า หรือเพื่อก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตาม กฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตาม กฎหมาย
6.2 เพื่อวัตถุประวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการตลาดแบบตรง
6.3 เพื่อการศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ประวัติศาสตร์ หรือสถิติ เว้นแต่บริษัทฯมีความจำเป็นเพื่อ ดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะของบริษัทฯ
7. สิทธิในการขอระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล ในกรณีดังต่อไปนี้
7.1 เมื่อบริษัทฯ อยู่ในระหว่างการตรวจสอบตามที่ท่านได้ขอให้แก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลถูกต้องเป็น ปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
7.2 เมื่อเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่ต้องลบหรือหรือทำลาย
7.3 เมื่อข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวหมดความจำเป็น เนื่องจากท่านมีความจำเป็นต้องขอให้เก็บรักษา ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้เพื่อใช้ในการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือ การใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย
7.4 เมื่อบริษัทฯ อยู่ในระหว่างการพิสูจน์สิทธิในการปฏิเสธคำขอการคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
8. ท่านมีสิทธิในการร้องเรียนต่อคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 หากบริษัทฯ ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562
หากท่านมีข้อสงสัยหรือมีความประสงค์จะแก้ไข ลบข้อมูล ใช้สิทธิ หรือติดต่อเรื่องอื่น ๆ ที่เกี่ยวกับข้อมูล ของ ท่าน กรุณาติดต่อผ่านช่องทางการติดต่อด้านล่าง
ช่องทางการติดต่อ
บริษัท กรุงเทพ อาร์ ไอ เอ แล็บ จำกัด
6 (สนธิวัฒนา 3) ลาดพร้าว 110 แขวงพลับพลา เขตวังทองหลาง กรุงเทพฯ 10310
โทร: +66(2) 1066-999
แฟกซ์: +66(2) 530-4619
อีเมล์: dpo@brianet.com