จาก 3 ประสานของ 2 หน่วยงานรัฐ คือ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ร่วมกับ ภาคเอกชน คือ บริษัท แปซิฟิค ไบโอเทค จำกัด ได้พัฒนาชุดตรวจเชื้อเอดส์ดื้อยา และทดสอบคุณภาพเป็นผลสำเร็จแล้ว ทั้งนี้เพื่อให้ผู้ป่วยที่ติดเชื้อ HIV ทั้งในและต่างประเทศสามารถเข้าถึงการตรวจเชื้อดื้อยาที่มีคุณภาพและมีราคาถูกได้ครอบคลุมมากขึ้น นอกจากนี้เพื่อเป็นการลดการนำเข้าและนำไปสู่การส่งออกในอนาคตต่อไป
การพัฒนาชุดตรวจเชื้อเอดส์ดื้อยา ชื่อ PolGene® HIV Drug resistance genotypic assay
การพัฒนาการตรวจหาเชื้อเอชไอวีดื้อยาของคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เริ่มมาตั้งแต่ปีพ.ศ. 2537 โดยทีมวิจัยที่ประกอบด้วย ดร.สุณี ศิริวิชยกุล ศาสตราจารย์นายแพทย์ประพันธ์ ภานุภาค และศาสตราจารย์นายแพทย์เกียรติ รักษ์รุ่งธรรม ทั้งนี้ ดร.สุณี ศิริวิชยกุล ได้ผ่านการฝึกอบรมที่สหรัฐอเมริกาโดยมี Professor Scott Hammer แห่ง Harvard Medical School เป็นครูพี่เลี้ยง ซึ่งการตรวจหาเชื้อ HIV ที่ดื้อยาในสมัยนั้น ต้องเพาะเชื้อจากผู้ติดเชื้อแล้วใส่ยาต้านไวรัสลงไปเพื่อประเมินผลว่ายานั้นๆสามารถควบคุมการแบ่งตัวของเชื้อได้มากหรือน้อยเพียงใด การทดสอบวิธีนี้เรียกว่า Phenotypic assay แต่เนื่องจากการเพาะเชื้อ HIV จากเลือดของผู้ป่วยมีขบวนการที่ยุ่งยาก ต้องใช้เวลาเป็นเดือน ค่าใช้จ่ายสูง จึงไม่เป็นที่นิยมกัน
ในระยะเวลาใกล้เคียงกันนั้น มีการสะสมความรู้กลไกการดื้อยาและการกลายพันธุ์ของเชื้อ HIV อย่างเป็นระบบ จึงมีการพัฒนาชุดตรวจและวิธีหาเชื้อดื้อยาโดยการตรวจสายพันธุกรรมที่กลายพันธุ์ไปออกมาจำหน่าย เรียกชื่อวิธีนี้ว่า Genotypic assay
ในปี 2539 มีการก่อตั้งศูนย์ความร่วมมือวิจัยด้านโรคเอดส์ระหว่าง 3 ประเทศ คือ เนเธอร์แลนด์ ออสเตรเลียและ ไทย หรือ The HIV Netherlands Australia and Thailand Research Collaboration (HIV-NAT) ขึ้นที่ศูนย์วิจัยโรคเอดส์ สภากาชาดไทย โดยศาสตราจารย์นายแพทย์ประพันธ์ ภานุภาคร่วมกับ 2 ศาสตราจารย์จากต่างประเทศ คือ Professor David Cooper และ Professor Joep Lange เพื่อทำการศึกษาวิจัยยาต้านไวรัสเอดส์ที่เหมาะสำหรับคนไทย แต่ชุดตรวจเชื้อดื้อยาที่นำเข้ามีราคาแพง จึงได้สนับสนุน ดร.สุณี ศิริวิชยกุล ให้ศึกษาและพัฒนาวิธีการตรวจหาเชื้อดื้อยาโดยวิธี in house Genotypic assay ขึ้นมาใช้ในห้องปฏิบัติการที่ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพื่อการวิจัย พร้อมกับการประกันคุณภาพกับเครือข่ายนานาชาติด้านประกันคุณภาพการตรวจเชื้อเอดส์ดื้อยา และมีผลงานวิจัยตีพิมพ์ในวารสารชั้นนำของโลกด้านโรคเอดส์อย่างต่อเนื่อง
เนื่องจากมีวิธีตรวจที่พัฒนาขึ้นนี้มีราคาถูกกว่าชุดทดสอบสำเร็จรูปที่นำเข้า ประมาณครึ่งหนึ่ง (ราคาประมาณ 10,000 บาทในขณะนั้น) เพื่อให้ผู้ติดเชื้อไทยสมารถเข้าถึงการตรวจนี้ ทาง ศ. นพ. ประพันธ์ ภานุภาค จึงได้นำมาเปิดให้บริการที่คลีนิคนิรนาม สภากาชาดไทยตั้งแต่ปี 2545 นอกจากนี้ยังได้มีการถ่ายทอดเทคโนโลยีให้แก่หน่ายงานทั้งไทยและต่างประเทศ เช่น คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และ University of Malaya Medical Centre เป็นต้น
อย่างไรก็ตามปัญหาการระบาดของโรคเอดส์ยังคงเป็นปัญหาของประเทศ และของทั่วโลก ในประเทศไทย ปัจจุบันมีผู้ติดเชื้อที่กำลังรักษาด้วยยาต้านไวรัสอยู่อย่างน้อย 200,000 ราย ทั่วโลกมีอยู่ประมาณเกือบ 10 ล้านคน และจากการประกาศของ WHO ในปี้นี้ได้แนะนำให้เริ่มรักษาเร็วขึ้นคือ ที่ CD4 ต่ำกว่า 500 คาดว่าจะมีผู้ติดเชื้อที่ต้องรับประทานยาเพิ่มขึ้นรวมเป็นประมาณ 25 ล้านคน ทั้งนี้โดยทั่วไปจะมีอัตราการดื้อยาที่ประมาณ 15-25% แล้วแต่กลุ่มประชากร ดังนั้นจะเห็นว่าความจำเป็นต้องมีชุดตรวจที่มีคุณภาพแต่ราคาถูกให้มีใช้และเข้าถึงในหลายๆประเทศทั่วโลก จึงเป็นแรงบันดาลใจและเป็นจุดเริ่มต้นให้ศาสตราจารย์นายแพทย์เกียรติ และคณะจับมือกันอย่างจริงจัง กับภาคเอกชน คือ บริษัท แปซิฟิค ไบโอเทค จำกัด ในการถ่ายทอดเทคโนโลยีสู่ภาคอุตสาหกรรม และร่วมมือกับสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์สาธารณสุข กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐที่ได้รับการรับรองจากองค์การอนามัยโลกและมาตรฐานสากล ISO 15189 สำหรับห้องปฏิบัติการและ ISO17043 สำหรับการประเมินคุณภาพห้องปฏิบัติการตรวจเชื้อเอชไอวีดื้อยาต้านไวรัสแห่งชาติ มีส่วนร่วมในการทดสอบ และประเมินผลทั้งหมดของชุดน้ำยานี้ ชุดตรวจนี้ ใช้ชื่อว่า PolGene® บัดนี้ได้ทำสำเร็จแล้ว ทั้งนี้ต้องขอขอบคุณแหล่งทุนสนับสนุนต่างๆที่สนับสนุนโครงการนี้ ได้แก่ สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ สนช. ทุนเมธีวิจัยอาวุโส (สำหรับ ศ. นพ. เกียรติ รักษ์รุ่งธรรม) สกว. ทุนมหาวิทยาลัยวิจัยแห่งชาติ สกอ. และทุนงบประมาณแผ่นดิน วช.
บริษัท แปซิฟิค ไบโอเทค จำกัด กับแผนการจัดจำหน่ายในอนาคต
ด้านคุณทศพล พิชญโยธิน ในฐานะผู้บริหารบริษัท แปซิฟิค ไบโอเทค จำกัด กล่าวว่าในส่วนการได้รับสนับสนุนเพื่อพัฒนางานวิจัยสู่การผลิต จัดจำหน่ายและด้านการตลาด บริษัท แปซิฟิค ไบโอเทค จำกัด เป็นบริษัทที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับการผลิตและจำหน่ายชุดตรวจวินัจฉัยโรคชนิดเร็ว (Diagnostic Rapid Test Kit) ซึ่งมีทั้งแบบนำเข้าและรับจ้างผลิต มาเป็นระยะเวลากว่า 10 ปี บริษัท แปซิฟิค ไบโอเทค จำกัด เป็นหนึ่งในบริษัทที่อยู่ในกลุ่มบริษัท BRIA โดยได้แตกไลน์ออกมาจาก บริษัท กรุงเทพอาร์ไอเอแล็บ จำกัด ซึ่งเป็นแล็บเอกชนแห่งแรกในประเทศไทย ในการให้บริการการตรวจวินิจฉัยโรค และตลอด 30 ปีของกลุ่มบริษัท BRIA ได้มีส่วนร่วมในโครงการพัฒนางานวิจัยของทางภาครัฐหลายโครงการ สำหรับโครงการชุดทดสอบการดื้อยาในผู้ป่วยโรคเอดส์ เป็นหนึ่งในโครงการที่ทางบริษัทได้มีการพัฒนาต่อยอดงานวิจัย และได้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยีจากภาครัฐ โดยสถาบันทรัพย์สินทางปัญญาแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ภายใต้การสนับสนุนโครงการ แปลงเทคโนโลยีเป็นทุน จากสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ ในปี 2554 เพื่อพัฒนากระบวนการผลิตตามแนวคิดนวัตกรรม รวมถึงการพัฒนาและทดสอบประสิทธิภาพของชุดตรวจ โดยได้รับความร่วมมือในการทดสอบประสิทธิภาพของชุดตรวจจากห้องปฎิบัติการ 3 แห่ง ภายใต้การดูแลของ ดร. สุณี ศิริวิชยกุล ในส่วนของห้องปฎิบัติการ VCI ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ดร. สิริพรรณ แสงอรุณ ในส่วนของห้องปฏิบัติการ สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์สาธารณสุข กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข และดร. เสาวลักษณ์ ด่านสกุล ในส่วนของห้องปฏิบัติการอณูชีววิทยา บริษัทกรุงเทพ อาร์ไอเอแล็บ จำกัด บัดนี้ขั้นตอนการทำการทดสอบประสิทธิภาพจากห้องปฏิบัติการทั้ง 3 แห่ง ได้เสร็จสิ้นลง และทางบริษัทได้มีการวางแผนการจัดจำหน่ายชุดทดสอบดังกล่าวต่อไป
ความรู้ทางด้านอณูชีววิทยา (Molecular genetics & Molecular biology) ถูกนำมาประยุกต์ใช้ทางด้านการแพทย์มากขึ้น เพื่อหาคำตอบ หรือตอบคำถามทางด้านวิทยาศาสตร์สุขภาพได้หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการป้องกัน การตรวจวินิจฉัยโรค ตลอดถึงการรักษาโรค ทางบริษัทฯ ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญดังกล่าว และถึงแม้ว่าราคาน้ำยาและสารเคมีที่ใช้ต่างๆในการให้บริการในการตรวจวินิจฉัย โดยใช้เทคนิคทางด้าน Polymerase Chain Reaction หรือ PCR เมื่อเปรียบเทียบกับหลายปีที่ผ่านมาได้มีการปรับลดลงมาพอสมควร เนื่องจากมีการแข่งขันของภาคธุรกิจกันมากขึ้น ควบคู่กับความรู้ทางด้านอณูชีววิทยา ได้มีการพัฒนาและมีการศึกษามากขึ้น เพื่อให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาความรู้ทางวิทยาศาสตร์ อย่างไรก็ตามสำหรับการตรวจการดื้อยาของเชื้อ HIV-1 ยังคงมีราคาสูงมาก ทำให้ผู้ป่วยบางกลุ่มไม่สามารถเข้าถึงการตรวจวินิจฉัยได้ การร่วมมือกับภาครัฐในการพัฒนาชุดตรวจในครั้งนี้เพื่อจุดประสงค์ มุ่งเน้นการลดต้นทุนการตรวจ เพื่อให้ผู้ป่วยทุกระดับชั้น สามารถเข้าถึงการตรวจได้ อย่างไรก็ตามในด้านการตลาดทางบริษัทฯ ก็ยังคงหวังให้ทางภาครัฐที่เกี่ยวข้อง ให้การสนับสนุนเพื่อการร่วมผลักดันปรับเปลี่ยนจากวิธีการตรวจวินิจฉัยที่ต้องใช้ commercial kit ที่อาศัยน้ำยาตรวจวิเคราะห์จากต่างประเทศซึ่งมีราคาสูง มา เป็นการตรวจแบบ In house ที่ได้รับการทดสอบประสิทธิภาพและประสิทธิผลเทียบเท่า เพื่อใช้ในการตรวจการดื้อยาของเชื้อ HIV-1 ได้แพร่หลายมากขึ้นในอนาคต
ทั้งนี้ทางบริษัทจะมุ่งมั่นร่วมกับนักวิจัยของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย รวมทั้งห้องปฏิบัติการอื่นๆในการพัฒนาชุดตรวจอื่นๆอย่างต่อเนื่อง ไม่ใช่เพียงเพื่อลดการนำเข้า แต่เพื่อมุ่งหวังส่งออกต่อไปในอนาคตด้วย
การจัดอบรมเชิงปฏิบัติการ การตรวจเชื้อ HIV ดื้อยาโดยวิธี Genotypic assay
การอบรมครั้งนี้เป็นการแนะนำชุดตรวจนี้กับศูนย์บริการตรวจห้องปฏิบัติการประมาณ 30 แห่งทั่วประเทศ เพื่อนำไปใช้จริงและให้การประเมินเพื่อปรับปรุงต่อยอด สำหรับการขึ้นทะเบียนชุดตรวจสำหรับจำหน่ายทั้งในและต่างประเทศต่อไปในเร็วๆนี้ โดยได้รับความร่วมมือจากสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์สาธารณสุข กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ในการจัดเตรียมสถานที่และเครืองมือวิทยาศาสตร์เพื่อใช้ในการจัดอบรม
ภาพบรรยากาศการอบรม